
นางสงกรานต์ 2559 “มณฑาเทวี”
นางสงกรานต์ 2559
นางสงกรานต์ ในโบราณมีการกำหนดไว้ถึง 7 นางด้วยกัน ซึ่งแต่ละนางก็จะมีความหมาย คำทำนายที่แตกต่างกันออกไป โดยทั้ง 7 นางสงกานต์ จะประกอบไปด้วย
- นางทุงษะเทวี
- นางรากษเทวี
- นางโคราคเทวี
- นางกิริณีเทวี
- นางมณฑาเทวี
- นางกิมิทาเทวี
- นางมโหธรเทวี
สำหรับวันสงกรานต์ ปี 2559 นี้ นางสงกรานต์ ได้แก่ “มณฑาเทวี” โดย นางสงกรานต์นามว่า “มณฑาเทวี” ทรงพาหุรัด ทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย หัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม หัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จไสยาสน์ลืมเนตร (นอนลืมตา) มาเหนือหลังคัสพะ (ลา) เป็นพาหนะ

สรงน้ำพระในวันสงกรานต์
วันสงกรานต์ ในแต่ละท้องถิ่นอาจไม่ตรงกัน แต่เป็นช่วงระหว่างวัน โดยการนับวันทางจันทรคติ และนอกจากประเทศไทยเราแล้ว ยังมีประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว พม่า กัมพูชา ก็มีประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีขึ้นปีใหม่ด้วยเช่นกัน
» วันมหาสงกรานต์
13 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ เป็นวันสิ้นปีเก่า และเป็นวันที่พระอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษ ต้องมีการยิงปืน หรือจุดประทัด ทำให้เกิดเสียงดัง เพื่อชับไล่สิ่งไม่ดีต่างๆ จะมีการปัดกวาดบ้านเรือน ซักเสื้อผ้า เพื่อทำความสะอาดและขับไล่สิ่งไม่ดีจากปีเก่าให้หมดไป
» วันเนา
14 เมษายน เป็นวันเนา บางแห่งเรียกว่า วันเน่า เป็นวันที่ เชื่อต่อระหว่าง ปีเก่าและปีใหม่ มีความเชื่อว่า ห้ามกระทำสิ่งที่ไม่เป็นมงคล ห้ามด่ากัน ห้ามทะเลาะกัน ซึ่งโดยรวมแล้ว วันเนานี้จะเป็นวันเตรียมงานทำบุญสงกรานต์ และมีการขนทรายเข้าวัดในตอนบ่าย
» วันเถลิงศกขึ้นปีใหม่
15 เมษายน เป็นวันเถลิงศก หรือวันพญาวัน เป็นวันที่มีการทำบุญทางศาสนา ทำบุญ ทำทานแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พร้อมทั้งยังมีการ รดน้ำดำหัว ผู้เฒ่าผู้แก่ ผู้อาวุโสเพื่อขอพร มีความเชื่อว่า จะสามารถช่วยให้ผู้ที่มีบาปหนัง พ้นทุกข์จากขุมนรกได้
มีเรื่องเล่าว่า เศรษฐีผู้หนึ่งอยู่กินกับภรรยามานานแต่ไม่มีบุตรเศรษฐีผู้นั้นบ้านอยู่ใกล้กับบ้านนักเลงสุรา นักเลงสุรามีบุตรสองคน ผิวเนื้อเหมือนทอง
วันหนึ่งนักเลงสุราไปกล่าวคำหยาบช้าต่อเศรษฐี เศรษฐีจึงถามว่าเหตุใดจึงมาหมิ่นประมาทตนผู้มีสมบัติมาก นักเลงสุราจึงตอบว่าถึงท่านมีสมบัติมากก็ไม่มีบุตร ตายแล้วสมบัติจะสูญเปล่า เรามีบุตรเห็นว่าประเสริฐกว่าท่านเศรษฐีได้ยินดังนั้น มีความละอายจึงทำการบวงสรวง ตั้งอธิษฐานขอบุตรต่อพระอาทิตย์และพระจันทร์ถึงสามปี แต่ไม่เป็นผลจึงไปขอบุตรต่อต้นไทร
...เทวดาซึ่งสิงสถิตย์อยู่ที่ต้นไทรสงสารได้ไปอ้อนวอนขอบุตรต่อพระอินทร์ให้เศรษฐี พระอินทร์จึงให้ธรรมบาลเทวบุตรลงมาปฏิสนธิในครรภ์ภรรยาเศรษฐี เมื่อประสูตแล้วเศรษฐีให้ชื่อว่า ธรรมบาล ตามนามของเทวบุตร และปลูกปราสาทเจ็ดชั้นให้อยู่ที่ใต้ต้นไทรนั้น ธรรมบาลเป็นเด็กฉลาด โตขึ้นอายุเพียง ๆ ขวบก็สามารถเรียนจบรู้ภาษานกและมีความเฉลียวฉลาดมากต่อมา กบิลพรหม จากพรหมโลกได้ลงมาถามปัญหาสามข้อกับธรรมบาล ปัญหามีว่า
คนเราในวันหนึ่ง ๆ เวลาเช้าศรีอยู่ที่ไหน เวลาเทียงศรีอยู่ที่ไหน และเวลาเย็นศรีอยู่ที่ไหน โดยสัญญาว่า ถ้าธรรมบาลแก้ได้กบิลพรหมจะตัดศีรษะของตนบูชา แต่ถ้าธรรมบาลแก้ไม่ได้จะต้องตัดศีรษะธรรมบาลเสีย โดยผัดให้เจ็ดวันคราวแรกธรรมบาลนึกตอบปัญหานี้ไม่ได้
พอถึงวันถ้วนหกพอดีไปแอบได้ยิน นกอินทรี ผู้ผัวพูดคำตอบให้นกอินทรีผู้เป็นเมียฟังบนต้นตาล ธรรมบาลถึง สามารถแก้ปัญหาได้ คำตอบคือเวลาเช้าศรีอยู่ที่หน้าคนถึงเอาน้ำล้างในตอนเช้า เวลากลางวันศรีอยู่ที่อกคนถึงเอาเครื่องหอมประพรมที่หน้าอกในเวลากลางวันและเวลาเย็นศรีอยู่ที่เท้า
คนจึงเอาน้ำล้างเท้าในเวลาเย็น เมื่อถึงวันถ้วนเจ็ดท้าวกบิลพรหมได้มาทวงถามปัญหาธรรบาล เมื่อธรรมบาลตอบได้ (ตามที่ยินนกพูดกัน) กบิลพรหมจึงตัดศีรษะของตนบูชาธรรมบาลตามสัญญาแต่เนื่องจากศีรษะของกบิลพรหมศักดิ์สิทธิ์ ถ้าตกลงแผ่นดินจะเกิดไฟไหม้ ถ้าทิ้งไปในอากาศจะทำให้เกิดฝนแล้งและถ้าทิ้งลงในมหาสมุทรน้ำจะแห้ง

...ดังนั้นเมื่อกบิลพรหมจะตัดศีรษะของตน ถึงได้ให้ ธิดาทั้งเจ็ด เอา พานมารองรับศีรษะ ของตนไว้ โดยตัดศีรษะส่งให้ นางทุงษ ผู้ธิดา คนใหญ่ แล้วธิดาทั้งเจ็ดจึงแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุเป็นเวลา 60 นาที จึงนำไปประดิษฐานไว้ที่มณฑปในถ้ำคันธุลีเขาไกรลาส
บูชาด้วยเครื่องทิพย์พระเวสสุกรรมก็เนรมิตโรงแล้วด้วยแก้วเจ็ดประการ ให้เป็นที่ประชุมเทวดาพอครบหนึ่งปีธีดาทั้งเจ็ดจะผลัดเปลี่ยนกันมาอัญเชิญเอาศีรษะของกบิลพรหมแห่พระทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ (ธิดาทั้งเจ็ดของกบิลพรหมมีชื่อดังนี้ คือ ทุงษ โคราด รากษส มัณฑา กิรินี กิมิทา และมโหทร ) พิธีแห่เศียรของกบิลพรหมนี้ทำให้เกิดพิธีตรุษสงกรานต์ขึ้นทุก ๆ ปี และถือเป็นประเพณีขึ้นปีใหม่ของชาวไทยโบราณต่อๆ กันมาด้วย

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับวันสงกรานต์
ในวันสงกรานต์ของประเทศไทยในแต่ละภาคจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
– สงกรานต์ภาคกลาง
13 เมษายน จะเรียกว่า “วันมหาสงกรานต์” และถือเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติอีกด้วย
14 เมษายน จะเรียกว่า “วันเนา” และถือเป็นวันครอบครัว
15 เมษายน จะเรียกว่า “วันเถลิงศก” ถือว่าเป็นวันเริ่มจุลศักราชใหม่
– สงกรานต์ภาคเหนือ
13 เมษายน จะเรียกว่า “วันสงขารล่อง” ความหมายว่า อายุสิ้นปีหมดไปอีกปี
14 เมษายน จะเรียกว่า “วันเน่า” วันที่ห้ามพูดคำหยาบคาย
15 เมษายน จะเรียกว่า “วันพญาวัน” ถือว่าเป็นวันเริ่มจุลศักราชใหม่
– สงกรานต์ภาคใต้
13 เมษายน จะเรียกว่า “เจ้าเมืองเก่า” เชื่อกันว่าวันที่เทวดารักษาบ้านเมืองจะกลับบนสวรรค์
14 เมษายน จะเรียกว่า “วันว่าง” วันที่ปราศจากเทวดารักษาเมือง
15 เมษายน จะเรียกว่า “วันรับเจ้าเมืองใหม่” วันรับเทวดาองค์ใหม่เพื่อดูแลบ้านเมืองแทนองค์เดิม
วันนี้ (13 เม.ย.59) เวลา 13.00 น.พ.ต.อ.สมเดช ทศพร ผกก.สภ.แจ้ห่ม มอบหมายให้ พ.ต.ท.พิภพ ขัติฤกษ์ รอง ผกก.ป.สภ.แจ้ห่ม กำกับดูแลการปฏิบัติ พ.ต.ท.สังเวียน ไชยเมืองชื่น สวป. พ.ต.ท.พรมมิน สมสุภาพรุ่งยศ สว.สส. ควบคุมการปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และรักษาความสงบเรียบร้อย ตามทางร่วมทางแยก ขบวนแห่ประเพณีวันสงกรานต์ 2559 เทศบาลตำบลแจ้ห่ม โดยมีคุณประภาศรี พยัคฆบุตร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแจ้ห่มเป็นประธาน
ณ.บริเวณแยกสบวัง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง